คู่ฟอเร็กซ์เป็นตราสารที่สามารถซื้อขายได้ซึ่งแสดงถึงมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง ชื่ออื่นๆ ที่ใช้ได้แก่ ‘คู่ FX’, ‘คู่สกุลเงิน’ หรือ ‘คู่สกุลเงินต่างประเทศ’
คู่ฟอเร็กซ์ประกอบด้วยสกุลเงิน ‘ฐาน’ และสกุลเงิน ‘ราคาอ้างอิง’
USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเยนญี่ปุ่น) เป็นตัวอย่างของคู่ฟอเร็กซ์ โดยที่ USD เป็นตัวแทนของสกุลเงินหลัก และ JPY แสดงถึงสกุลเงินอ้างอิง ด้วยเหตุนี้ USD/JPY จึงหมายถึงจำนวนเยนของญี่ปุ่นที่สามารถรับได้ในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เช่น 100.00 เยนต่อ 1 ดอลลาร์)
ในฐานะตราสารที่สามารถซื้อขายได้ หากคุณซื้อ USD/JPY คุณคาดหวังว่ามูลค่าของ USD จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ JPY (เช่น คาดว่าจะสามารถแลกเปลี่ยน USD เป็น JPY ได้มากกว่าอัตราปัจจุบันในอนาคต) ในทางกลับกัน หากคุณขาย USD/JPY คุณคาดหวังว่ามูลค่าของ USD จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ JPY (เช่น คาดว่าจะสามารถแลกเปลี่ยน JPY เป็น USD ได้มากกว่าอัตราปัจจุบันในอนาคต)
มูลค่าของคู่ฟอเร็กซ์มีความผันผวนตามปัจจัยหลายประการ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจมหภาคของประเทศที่ออกสกุลเงินแต่ละสกุล
คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกเรียกว่าคู่ ‘หลัก’ คู่ฟอเร็กซ์หลักได้แก่:
- EUR/USD (ยูโร/ ดอลลาร์สหรัฐ)
- GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ ฟรังก์สวิส)
- USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
- AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ ดอลลาร์สหรัฐ)
- NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์ / ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)
นอกจากคู่เงินหลักเหล่านี้แล้ว นักลงทุนยังสามารถซื้อขายคู่ ‘รอง’ และ ‘แปลกใหม่’ ได้อีกด้วย คู่รองคือคู่สกุลเงินที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐเป็นองค์ประกอบ คู่รองยอดนิยมได้แก่:
- EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์อังกฤษ)
- GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น)
- EUR/CHF (ยูโร/ ฟรังก์สวิส)
คู่สกุลเงินแปลกใหม่จะรวมสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ คู่ที่แปลกใหม่ยอดนิยม ได้แก่ :
- USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/ บาทไทย)
- EUR/TRY (ยูโร/ ลีราตุรกี)
- GBP/ZAR (สเตอร์ลิง/ แรนด์แอฟริกาใต้)
- AUD/MXN (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ เปโซเม็กซิโก)
- USD/VND (ดอลลาร์สหรัฐ/ ดองเวียดนาม)