- ด้วยการดูตัวบ่งชี้ที่สำคัญเหล่านี้ เทรดเดอร์จึงสามารถตัดสินใจซื้อขายโดยมีข้อมูลมากขึ้น
สิ่งสำคัญคือต้องรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและรายงานข้อมูลต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงิน นี่คือรายงานข้อมูลสำคัญบางส่วนที่เทรดเดอร์ควรดูเมื่อซื้อขายโลหะเงิน:
#1 อัตราส่วนทองคำต่อเงิน
อัตราส่วนทองคำต่อเงินคือจำนวนออนซ์ของเงินที่จำเป็นในการซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนที่สูงบ่งชี้ว่าเงินมีราคาค่อนข้างถูกกว่าเมื่อเทียบกับทองคำ ในขณะที่อัตราส่วนที่ต่ำหมายความว่าเงินมีราคาค่อนข้างแพงกว่า เทรดเดอร์สามารถใช้อัตราส่วนนี้เพื่อประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ของเงินและตัดสินใจซื้อและขายอย่างมีข้อมูล
#2 อุปสงค์ทางอุตสาหกรรม
เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น ตัวนำไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ทางอุตสาหกรรมอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาโลหะเงิน เทรดเดอร์ควรจับตาดูข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตเชิงอุตสาหกรรมและกิจกรรมการผลิต ตลอดจนข่าวสารใดๆ ที่อาจส่งผลต่อความต้องการเงินในอุตสาหกรรมเหล่านี้
#3 ความต้องการลงทุน
เงินยังใช้เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและสามารถซื้อและขายเป็นรูปแบบหนึ่งของการลงทุนได้ การเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของนักลงทุนและความต้องการโลหะเงินในการลงทุนอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา ผู้ค้าควรจับตาดูข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการในการลงทุน เช่น ระดับการถือครองโลหะเงินในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และระดับทองคำแท่งที่ถือโดยธนาคารกลาง
#4 ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ราคาโลหะเงินมักมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ราคาโลหะเงินก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง และในทางกลับกัน เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้เงินมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่น ซึ่งสามารถลดความต้องการและราคาที่ต่ำลงได้ ในทางกลับกัน ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงสามารถเพิ่มความต้องการเงินและผลักดันราคาให้สูงขึ้นได้ ผู้ค้าควรจับตาดูข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าของเงินดอลลาร์ เช่น US Dollar Index เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของสกุลเงินและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับราคาโลหะเงิน
#5 ความคาดหวังเงินเฟ้อ
เงินมักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของเงินอาจเพิ่มขึ้นได้เมื่อกำลังซื้อเงินลดลง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลต่อราคาโลหะเงิน ผู้ค้าควรจับตาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อประเมินแนวโน้มที่ราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคตและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโลหะเงิน
#6 อัตราดอกเบี้ย
การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยยังอาจส่งผลต่อราคาเงิน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้ผู้ค้าถือเงินและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ มีราคาแพงมากขึ้น สิ่งนี้สามารถลดความต้องการเงินและกดดันราคาให้ลดลง ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจทำให้การถือโลหะเงินถูกลง และเพิ่มความต้องการ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ผู้ค้าควรดูข้อมูลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เช่น อัตรามาตรฐานของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อประเมินผลกระทบต่อราคาโลหะเงิน