- สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อาทิ การเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ(CPI) รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเฟด(FOMC) รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำและทิศทางการลงทุนในตลาด
ท้ายสัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมากมาย ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐอเมริกา รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตลอดจนการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางแคนาดาและธนาคารกลางยุโรป (ECB)
อิมพอร์ต ปฏิทินเศรษฐกิจของ BlackBull Markets ไปยัง iCloud, Google หรือ Outlook ของท่าน เพื่อให้คุณไม่พลาดข่าวสำคัญ ส่งตรงไปทุกอุปกรณ์ ให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้าและคว้าโอกาสในการซื้อขายได้
หากตัวเลขดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจจำกัดโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หรืออย่างน้อยก็เป็นการหยุดพักการปรับตัวชั่วคราว เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อที่เหมาะสม ทั้งนี้ ธนาคารเมริกาได้ปรับประมาณการราคาเฉลี่ยของทองคำในไตรมาสที่ 4 ให้อยู่ที่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจจากเจมส์ บุลลาร์ด อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐประจำเขตเซนต์หลุยส์ (ซึ่งรวมอยู่ในรายงานการประชุม FOMC ด้วย) ที่ระบุว่าจากข้อมูลในปัจจุบัน ธนาคารกลางสหรัฐสามารถอ้างเหตุผลเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยลงได้แล้ว แต่เนื่องจากยังมีเวลาพอสมควร ดังนั้นจึงน่าจะรอสักระยะก่อน
จากกราฟรายวัน พบว่าสภาวะซื้อมากเกินไปอาจเริ่มกดดันคู่เงิน XAU/USD เนื่องจากSimple Moving Average (SMA) 20 วัน อยู่สูงกว่าระดับราคาปัจจุบันถึงกว่า 100 ดอลลาร์ แม้ว่ายังคงอยู่สูงกว่า SMA 50, 100 และ 200 วันก็ตาม