- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนั้น สร้างแรงกดดันทางการเมืองให้กับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเป็นอย่างมาก
ตามคาดการณ์ของตลาด เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25%-5.5% ในการประชุมจนถึงวันพุธนี้ นักลงทุนจะจับตาดูแถลงการณ์จากเฟดอย่างละเอียด เพื่อหาสัญญาณว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด และจะมีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงกี่ครั้งภายในปีนี้
บางการคาดการณ์ระบุว่า เฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นเวลาประมาณ 2 เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน ม เออร์วาร์ ปุระสาด อาจารย์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา น่าจะทำให้เฟดไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ อดัม โพเซน ผู้อำนวยการสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ไปไกลกว่านั้น โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งนั้น ลดโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนการเลือกตั้งลงไปอีก
เฟดได้เลื่อนการประชุมในเดือนพฤศจิกายนออกไปหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่คล้ายกับสิ่งที่เคยทำในปี 2020
วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต 3 คน ซึ่งรวมถึงเอลิซาเบธ วอร์เรน ได้ส่งจดหมายถึงเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุด โดยระบุว่านโยบายการเงินของเฟดนั้น “กำลังผลักดันให้ต้นทุนที่อยู่อาศัยและประกันภัยยานพาหนะสูงขึ้น ซึ่งเป็นสองปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ”
ดอนัลด์ โคน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดมาก่อน ได้ให้ความเห็นว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนปัจจุบัน ได้ยืนยันมาอย่างสม่ำเสมอว่า การตัดสินใจของเฟดจะขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจเป็นหลัก มากกว่าที่จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางการเมือง
สำหรับวันที่และเวลาที่แน่นอนของเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญเหล่านี้ นักลงทุนทุกท่านสามารถใช้งาน ปฏิทินเศรษฐกิจ BlackBull Markets เพื่อรับการแจ้งเตือนโดยตรงในกล่องจดหมายอีเมลของคุณ